โครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด



ทูลกระหม่อมเสด็จเป็นองค์ประธานประชุมคะณะกรรมการอำนวยการ15 พฤศจิกายน 2018

15 November 2561

วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน 2561 ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธาน การประชุมคณะกรรมการอำนวยการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2562 ณ ห้องประชุมชัยนาทนเรนทร สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 

คณะกรรมการอำนวยการโครงการรณรงค์ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด TO BE NUMBER ONE แต่งตั้งขึ้นในปี 2545 โดยทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ทรงพระกรุณาธิคุณรับเป็นองค์ประธาน มีกรมสุขภาพจิตเป็นเลขานุการ และมีผู้บริหารระดับรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี หัวหน้าหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ร่วมเป็นคณะกรรมการ กำหนดการประชุม ปีละ 1 ครั้ง วัตถุประสงค์การประชุม เพื่อกราบทูลรายงานผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา และนโยบายแผนการดำเนินงานในปีต่อไป ให้องค์ประธานทรงทราบและทรงมีพระวินิจฉัย และให้คณะกรรมการ ได้รับทราบแนวทางการดำเนินงานจากองค์ประธานโครงการฯ เพื่อนำไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง สนองพระราชดำริและพระราชประสงค์

สำหรับผลการดำเนินงานเด่น ของโครงการ TO BE NUMBER ONE ในปี 2561 ที่ผ่านมา ได้แก่ 
ด้านการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ สร้างกระแส ค่านิยมเป็นหนึ่งโดยไม่พึ่งยาเสพติด ผ่านสื่อ ผลิตและเผยแพร่รายการผ่านสื่อโทรทัศน์ 2 รายการ คือ รายการ TO BE NUMBER ONE VARIETY ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2554 เพื่อปลุกกระแสให้เกิดการตระหนักรู้และต่อต้านยาเสพติดในกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ รวมทั้งให้ประชาชนรับรู้และเข้าใจการดำเนินกิจกรรมต่างๆของโครงการ TO BE NUMBER ONE นำเสนอเนื้อหาในรูปแบบที่เหมาะกับคนรุ่นใหม่ โดยได้รับพระกรุณาธิคุณจากองค์ประธานโครงการ ทรงตอบจดหมายที่ส่งมาจากเยาวชน สมาชิก TO BE NUMBER ONE ทั่วประเทศ ด้วยพระองค์เอง และ รายการคนเก่งและดี TO BE NUMBER ONE นำเสนอเนื้อหาผลสำเร็จและสิ่งดีๆ จากการเข้าร่วมโครงการ TO BE NUMBER ONE ของแกนนำและสมาชิก TO BE NUMBER ONE เพื่อเป็นแรงบันดาลใจ และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เครือข่ายสมาชิกอื่นๆ 
ด้านการพัฒนาและขยายเครือข่าย TO BE NUMBER ONE พบว่า กิจกรรมการเสด็จเยี่ยมสมาชิก และติดตามงานในพื้นที่ต่างๆ ขององค์ประธานเป็นการรณรงค์กระตุ้นการดำเนินงานและขยายเครือข่ายที่ได้ผลดีมากที่สุด ในปี 2561 เสด็จเยี่ยมสมาชิกในจังหวัดภูมิภาค 16 จังหวัด และ 5 เขตกรุงเทพมหานคร โดยในปัจจุบันมีสมาชิก TO BE NUMBER ONE และสมาชิกใครติดยายกมือขึ้น ทั่วประเทศ 29,103, 516 คน และมีเครือข่ายชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษา ชุมชน สถานประกอบการ สถานพินิจฯ เรือนจำ/ทัณฑสถาน และสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดรวม 71,385 แห่ง 
การจัดประกวดผลงานจังหวัดและชมรม TO BE NUMBER ONE ประจำปี เป็นรูปแบบหลักในการพัฒนา ขับเคลื่อน และขยายเครือข่ายการดำเนินงานให้ครอบคลุมทั้งในระดับนโยบาย การบริหารจัดการ และกลุ่มเยาวชน มีการพัฒนารูปแบบและเกณฑ์การประกวดมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2561 มีจังหวัดและชมรมเข้าร่วมประกวด ทั้งสิ้น 647 แห่ง เพิ่มจากปี 2560 ร้อยละ 23.23 และจากการประกวดผลงานจังหวัดและชมรมต่างๆ ระดับประเทศ ในงานมหกรรม TO BE NUMBER ONE ประจำปี 2561 ระหว่างวันที่ 13 - 15 กรกฎาคม 2561 ณ ศูนย์ประชุม IMPACT เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ที่มีสมาชิกจากทั่วประเทศ มากกว่า 20,000 คน มาร่วมงานและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ โดยจากผลการประกวด มีจังหวัดและชมรมที่มีศักยภาพตามมาตรฐาน ดังนี้
จังหวัด TO BE NUMBER ONE ระดับดีเด่น ซึ่งมีนโยบาย แผนงาน การบูรณาการด้านการป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติด และการเสริมสร้างศักยภาพเยาวชนกลุ่มปกติและกลุ่มเสี่ยง ภายในจังหวัดที่เข้มแข็งชัดเจน 20 จังหวัด ระดับเงิน มีการสร้างและพัฒนาเครือข่ายตามมาตรฐาน 8 จังหวัด ระดับทอง มีการดำเนินงานต่อยอดด้าน “นวัตกรรม” ตามมาตรฐาน 19 จังหวัด และระดับเพชร ซึ่งมีการดำเนินงานด้าน “องค์ความรู้” ตามมาตรฐาน 4 จังหวัด
ชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานศึกษา ชุมชน สถานประกอบการ สถานพินิจฯ เรือนจำ/ทัณฑสถาน ระดับดีเด่น ซึ่งมีการดำเนินงานตามองค์ประกอบชมรมฯ 3 ก. ที่ชัดเจน และเข้มแข็งภายใต้แนวทาง “สมาชิกเพื่อสมาชิก” และ “เพื่อนช่วยเพื่อน” 158 ชมรม ระดับเงิน มีการสร้างและพัฒนาเครือข่ายตามมาตรฐาน 46 ชมรม ระดับทอง มีการดำเนินงานด้าน “นวัตกรรม” ตามมาตรฐาน 36 ชมรม และระดับเพชร ซึ่งมีการดำเนินงานด้าน “องค์ความรู้” ตามมาตรฐาน 18 ชมรม
และเพื่อให้เครือข่ายทั่วประเทศได้พัฒนาความรู้ ความเข้าใจแนวทางการดำเนินงานโครงการฯ ที่ถูกต้อง และแลกเปลี่ยนเรียนรู้การดำเนินงานกับเครือข่ายอื่นๆ มีการจัดสัมมนาเครือข่าย TO BE NUMBER ONE ประจำปี โดยในปี 2561 มีผู้บริหาร ผู้ปฏิบัติงานจากหน่วยงานหลัก และชมรม TO BE NUMBER ONE เข้าร่วมสัมมนารวมทั้งสิ้น 842 คน
ด้านการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางด้านจิตใจ มีการจัดบริการศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ตามแนวคิด “ปรับทุกข์ สร้างสุข แก้ปัญหา พัฒนา EQ” ในชมรมทุกประเภท จำนวน 9,697 แห่ง ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2560 ร้อยละ 8.3 และจัดให้มีบริการศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE ในห้างสรรพสินค้าเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 4 แห่ง ที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์, ฟิวเจอร์ พาร์ค รังสิต, ซีคอนสแควร์ และเดอะมอลล์ บางแค โดยในปี2561 มีผู้มาใช้บริการ รวมทั้งสิ้น 86,787 คน เพิ่มขึ้นจาก ปี 2560 ร้อยละ 8.94 
การจัด “ค่ายพัฒนาสมาชิก TO BE NUMBER ONE สู่ความเป็นหนึ่ง” หรือ “TO BE NUMBER ONE CAMP” กำหนดจัดขึ้นปีละ 2 ครั้งในช่วง ปิดภาคการศึกษา เดือนมีนาคมและตุลาคม โดยจัดสรรโควต้าให้กับเยาวชนสมาชิก TO BE NUMBER ONE อายุ 12 - 24 ปีทั่วประเทศ ใช้ระยะเวลาในค่าย 6 วัน 5 คืน ดำเนินการไปแล้ว 20 รุ่น ที่ผ่านมาจากการติดตาม พบว่า สมาชิกมีพัฒนาการในหลายด้าน มากที่สุด คือ พัฒนาการด้านอยู่ร่วมกับผู้อื่น รองลงมา คือ มีทัศนคติมุมมองเชิงบวก, เรียนรู้วิธีการทำงาน และมีบุคลิกภาพที่ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถนำความรู้ ทักษะและสมรรถนะที่ได้รับจากค่ายไปช่วยกิจกรรมสาธารณประโยชน์จนเป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
การจัดประกวด TO BE NUMBER ONE DANCERCISE เป็นการเปิดพื้นที่บวกให้เยาวชน ได้แสดงออกทางความคิดสร้างสรรค์ ความสามัคคี ความมุ่งมั่น ทุ่มเท โดยไม่ต้องพึ่งพายาเสพติด หลังการแข่งขันเยาวชนได้เข้าค่าย เพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม และความฉลาดทางอารมณ์โดยผ่านกิจกรรมต่างๆ ปี 2561 มีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรม ทั้งสิ้น 3,283 คน 
การจัดประกวดเยาวชนต้นแบบเก่งและดี TO BE NUMBER ONE IDOL เป็นการพัฒนา ต่อยอดสมาชิก TO BE NUMBER ONE ให้เป็นได้ทั้งคนเก่งและคนดี มีความพร้อมที่จะก้าวออกมายืนอยู่แถวหน้า เป็นต้นแบบให้กับสมาชิกทั่วประเทศ ดำเนินงานมาแล้ว 8 รุ่น รุ่นละ 40 คน 
ด้านการพัฒนาวิชาการ ผลิตคู่มือองค์ความรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพสมาชิกและพัฒนามาตรฐานการทำงาน ได้แก่ องค์ความรู้การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตและทักษะการดำรงชีวิตสำหรับวัยรุ่นและเยาวชน ,แนวทางพัฒนาการดำเนินงานโครงการ TO BE NUMBER ONE ทศวรรษที่ 2 ,คู่มือการอบรมอาสาสมัครศูนย์เพื่อนใจ TO BE NUMBER ONE และพิมพ์คำปรึกษาพระราชทานองค์ประธานโครงการ, เรียงความสิ่งดีๆ ในวาระครบรอบ 12 ปี และ 15 ปี TO BE NUMBER ONE และประสบการณ์ของจังหวัดและเครือข่ายที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินงาน TO BE NUMBER ONE เผยแพร่สู่เครือข่ายทั่วประเทศ
และจัดตั้งคณะทำงานเพื่อพัฒนาฐานข้อมูลโครงการ TO BE NUMBER ONE ตามแนวทางพระราชทาน โดยความร่วมมือของหน่วยงานหลักที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การรายงานมีศูนย์รวมและได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกัน 
การเข้าร่วมเป็นจิตอาสา ของสมาชิก TO BE NUMBER ONE ทั้งในภูมิภาค ทั้ง 76 จังหวัด และ 28 โรงเรียน และ 2 ชุมชน จากกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เพื่อดูแลสุขภาพจิตประชาชนในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิง
พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช มหิตลาธิเบศรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร สยามมินทราธิราช บรมนาถบพิตร 
งานมูลนิธิ TO BE NUMBER ONE องค์ประธานมูลนิธิ TO BE NUMBER ONE ทรงห่วงใยประชาชน สมาชิก TO BE NUMBER ONE และครอบครัว จึงทรงพระกรุณาธิคุณมอบหมายให้ผู้แทนมูลนิธิ
- นำสิ่งของพระราชทาน มอบให้กับครอบครัวที่ประสบภัยน้ำท่วม 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดอ่างทอง จังหวัดละ 2,000 ชุด รวมเป็นเงิน 565,719.75 บาท (ห้าแสนหกหมื่นห้าพันเจ็ดร้อยสิบเก้าบาทเจ็ดสิบห้าสตางค์)
- นำเงินช่วยเหลือพระราชทานมอบให้เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประจำประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัยชาวลาวเหตุเขื่อนเซเปียน เซน้ำน้อยแตก 
- นำเงินทุนการศึกษาพระราชทานต่อเนื่องจนจบการศึกษาระดับปริญญาตรี มอบให้แก่นายพชร กลีบบัว และนายจักรชลัช อยู่พัฒนะวงศ์ สมาชิก TO BE NUMBER ONE


ภาพข่าว